วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555

4 ท่าฟิตหุ่นดี



รูปร่างดี ย่อมเป็นที่ปรารถนาของผู้หญิง โดยเฉพาะคุณแม่ที่เพิ่งผ่านการคลอด ย่อมต้องมีไขมันส่วนเกินอยู่ มามองหาวิธีสลายไขมันกันแบบง่ายๆ แต่ได้ผลกันดีกว่าค่ะ นั่นคือ กายบริหารหรือแอโรบิค ถ้าคลอดเองก็เริ่มได้ตั้งแต่ 2-3 วันหลังคลอด ด้วยท่าเบาๆ ที่ทำได้ 4 ท่า แต่ถ้าผ่าตัดคลอดก็ควรรอสัก 4-6 สัปดาห์ค่อยเริ่มกัน


ท่าที่ 1 : บริหารกล้ามเนื้อข้างลำตัว 
* ยืนกางขาห่างกันพอสมควร * มือขวาวางแตะอยู่ที่ต้นขาด้านเดียวกัน * มือซ้ายยกสูงขึ้นเหนือศีรษะในขณะที่มือขวาค่อยๆ เลื่อนต่ำลงมาตามต้นขาจนสุดความตึงของช่วงแขน *มือซ้ายจะเอนตามไปทางขวาช้าๆ พร้อมกับหายใจเข้าลึกๆ แล้วกลั้นหายใจไว้สักพัก * ยืดตัวตรงพร้อมหายใจออก * ทำซ้ำแต่เอียงไปทางซ้าย อีกครั้งหนึ่ง
ท่าที่ 2 : ท่าบริหารหน้าท้อง* นอนหงายราบไปกับพื้น * งอเข่าขึ้นและแขนทั้งสองวางอยู่ข้างลำตัว * หายใจเข้าลึกๆ * ในขณะที่หายใจออกให้ยกศีรษะและแขน พร้อมกับหงายฝ่ามือขึ้น * อยู่ในท่านี้สักพักแล้วคลาย * ทำซ้ำ 10 ครั้ง คุณแม่จะยกศีรษะได้สูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทำบ่อยขึ้น
ท่าที่ 3 : ท่าบริหารต้นขา
คุกเข่า มือทั้งสองข้างวางอยู่บนพื้นและหลังตรง ยกเข่าขึ้นพร้อมกับก้มหน้าลงให้หน้าผากเข้าใกล้เข่ามากที่สุด กลั้นหายใจไว้ในท่านี้สักพัก หายใจออกพร้อมกับยืดตัวยกขาเหยียดออกไปทางข้างหลังแล้วเงยหน้าขึ้น กลั้นหายใจไว้ในท่านี้สักพัก แล้วคลาย ทำซ้ำอีกข้างหนึ่ง
ท่าที่ 4 : ท่าบริหารอุ้งเชิงกรานคุกเข่าอยู่ในท่าคลานสี่ขา เข่าแยกห่างกันประมาณ 30 ซม. มือทั้งสองยันพื้นไว้ เกร็งกล้ามเนื้อบริเวณทวาร แล้วดึงกล้ามเนื้อเชิงกรานเข้ามา โค้งกล้ามเนื้อหลังสูงขึ้น อยู่ในท่านี้สักครู่แล้วค่อยคลาย ขณะที่คลายกล้ามเนื้อ ระวังอย่าปล่อย ให้หลังแอ่นลง เริ่มต้นทำซ้ำใหม่ หลายๆ ครั้ง

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555

ขัดผิวด้วยน้ำผึ้งและน้ำมันมะกอก


 สครับขัดผิวแบบง่ายๆ ทำเองได้ ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งเป็นสาวสุขภาพดีได้เหมือนกัน

          ส่วนผสม : น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายแดง 1 1/2 ถ้วย

          วิธีทำ : เทน้ำมันมะกอกลงในถ้วยสะอาด จากนั้น เติมน้ำผึ้งแล้วจึงค่อยเติมน้ำตาลทรายแดง ใช้ตะเกียบคนให้เข้ากัน เสร็จแล้วไม่ต้องนำไปเข้าตู้เย็น เพราะจะทำให้ส่วนผสมจับตัวแข็งจนนำมาใช้ขัดตัวได้ลำบาก

          วิธีใช้ : ล้างหน้าให้สะอาดหมดจด อย่าให้มีคราบเครื่องสำอางเหลือตกค้างอยู่บนผิวหน้า ใช้ช้อนตักส่วนผสมขึ้นมาเป็นก้อนเล็กๆ แล้วทาลงบนใบหน้าให้ทั่ว ขัดผิวหน้าเป็นแนววงกลมให้ทั่วใบหน้า โดยหลีกเลี่ยงผิวบริเวณรอบดวงตา หลังจากขัดผิวหน้าเป็นเวลา 60 วินาที ก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด คุณควรขัดผิวหน้าแบบนี้ในช่วงกลางคืน และควรทำแค่สัปดาห์ละครั้งก็พอ

วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

คงความผอมเพรียวรับลมหนาว



อากาศหนาวๆ เย็นๆ แบบนี้ สาวๆ รู้ไหมคะว่ารู้สึกขี้เกียจอย่างบอกไม่ถูก จะให้ออกกำลังกายน่ะเหรอ แค่ลุกจากที่นอนยังยากเลย แล้วจะมีวิธีไหนที่จะไม่ทำให้เราเสียแผนไดเอ็ต


      1. ซุป หรือสตูว์มะเขือเทศ เป็นเมนูที่คุณสามารถเสริมเข้าไปในมื้ออร่อยได้ ซึ่งสตูว์ผักนั้นให้โซเดียมต่ำ และมะเขือเทศก็มีส่วนช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มท้องจนไม่เผลอรับแคลอรีเข้าไปมากเกิน
      2. โปรตีน ช่วยให้คุณอิ่มง่าย โดยเฉพาะโปรตีนจากนมถั่วเหลืองที่ให้ประโยชน์และทำให้อยู่ท้อง
      3. ดื่มน้ำมาก ๆ ในระหว่างมื้ออาหาร และดื่มเรื่อย ๆ ในระหว่างวัน
      4. จำกัดปริมาณอาหาร ตักอาหารแต่พอดี แล้วอย่าลืมว่าคุณต้องเลือกประเภทอาหารที่กินด้วยนะถึงจะได้ผล
      5. เลือกใช้เนื้อสดแบบไม่ติดมันทุกครั้งที่ทำอาหาร
      6. ถ้าอยากปรุงอาหารให้ได้รส ก็ควรเลี่ยงการใช้ส่วนผสมไขมันสูงแล้วปรุงด้วยเครื่องเทศธรรมดาอย่างพริกไทยจะดีกว่า
      7. ในช่วงหน้าหนาวมีแนวโน้มที่คุณจะบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารจากนมมากยิ่งขึ้น อย่าลืมเลือกนมแบบไขมันต่ำ หรือแบบพร่องมันเนยดีกว่านะ
      8. แทนที่จะปรุงอาหารด้วยไข่ทั้งฟอง ให้ใช้ไข่ขาวสองใบแทน
      9. เลือกเมนูง่าย ๆ และจำกัดจำนวนอาหารในแต่ละมื้อ เพื่อไม่ให้คุณรู้สึกอยากกินไปซะหมดทุกอย่าง
      10. เป็นเรื่องจำเป็นที่คุณจะต้องเลือกกินเสียบ้าง โดยเน้นอาหารเพื่อสุขภาพเป็นหลัก
      11. หากวันไหนที่คุณเผลอกินมากเกินไป วันรุ่งขึ้นให้รีบกลับไปเข้าแผนไดเอ็ตตามเดิม
      12. ของกินที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงไม่ได้เลวร้ายเสมอไป ตราบใดที่คุณไม่เลือกกินขนมที่อัดแน่นด้วยแป้งและไขมันจากเนย และควรเลือกขนมที่ทำจากแป้งโฮลวีต ซึ่งจะช่วยคุณได้มากในการเติมไฟเบอร์
      13. ขยับร่างกายและยืดเส้นยืดสายวันละ 30 นาที จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญคุณได้ดียิ่งขึ้น โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกฟิตเนสหรอกนะ บางทีแค่การเดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์ก็ช่วยได้เยอะแล้ว แน่นอนว่าอย่าหมกตัวอยู่แต่ในบ้านเลย ออกไปเดินรับลมและวิตามินดีจากแสงแดดสักหน่อย นั่นคือสิ่งที่ร่างกายคุณต้องการนะ

    อาหารแนะนำสำหรับช่วงหน้าหนาว การกินผักและผลไม้จะช่วยให้คุณรักษาหุ่นได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น   

        หัวไช้เท้า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับมื้อเย็น เพราะจะช่วยย่อยอาหาร ไม่ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อง มีเอนไซม์ที่กระตุ้นภายในช่องท้อง ช่วยดูดซับสารพิษ และทำให้คุณหลับสบายอีกด้วย

        มันฝรั่ง หากคุณกินมันฝรั่งต้ม หรืออบแทนข้าวขาว เส้นก๋วยเตี๋ยว หรือขนมปัง จะทำให้คุณได้รับแคลอรีน้อยลง และให้ไฟเบอร์มากยิ่งขึ้น ซึ่งในมันฝรั่งมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากกว่าแป้ง นอกจากนี้ ยังมีวิตามินซีสูงอีกด้วย

        ฟักทอง ฟักทองให้ไฟเบอร์ วิตามินเอ เรตินอล โพแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม และแมกนีเซียมในอัตราส่วนที่พอเหมาะตรงตามที่ร่างกายต้องการ

        กะหล่ำปลี เป็นทั้งยาช่วยระบาย และช่วยลดไขมันในร่างกายได้ กินได้ทั้งแบบดิบและแบบต้ม โดยน้ำซุปจากกะหล่ำปลีจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดี และทำให้รู้สึกอิ่ม

        ถั่วดำ มีโปรตีนช่วยชะลอการเพิ่มของไขมันในตับ และเร่งระบบการเผาผลาญ ซึ่งจะเป็นการลดกรดไขมันและคอเลสเตอรอลไปด้วย จึงเหมาะสำหรับการควบคุมน้ำหนัก

ลดพุง วิธีลดพุง กำจัดพุง ด้วยเทคนิคเด็ดเหล่านี้



1. ขยับเขยื้อนตัวให้บ่อยที่สุด 

อย่ามัวนั่งจุ้มปุ้กอยู่บนโซฟาหรือนอนแกร่วบนเตียง เพราะจะทำให้คุณอึดอัดมากขึ้น การขยับตัว เดินไปเดินมาในบ้านหรือเดินขึ้นลงบันได จะช่วยเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น 

2. ดื่มชา 

ค่อย ๆ จิบชา ก็พอช่วยได้ เพราะในชามีสารที่มีคุณสมบัติในการขับน้ำส่วนเกินออกมาจึงช่วยท ำให้กระเพาะหดตัวลง 

3. งดอาหารเค็มหรืออาหารที่มีเกลือ 

เกลือทำให้หน้าท้องคุณป่องได้ เพราะความเค็มของเกลือจะเป็นตัวกักเก็บน้ำส่วนเกินไว้ จึง ทำให้รู้สึกอึดอัดแถวๆหน้าท้อง 

4.ทานอาหารมื้อเล็ก ๆ 

แบ่งอาหาร 1 มื้อ เป็น 2 มื้อ และเน้นอาหารแคลอรี่ต่ำเช่น โยเกิร์ตพร่องไขมัน ผักสด หรือผลไม้ อาจทานทุก2-3 ชั่วโมง แต่เป็นจานเล็ก ๆ แทน 
การลดน้ำหนัก อย่างแรกต้องทำความเข้าใจว่า ร่างกายของคนเรานั้นต้องการสารอาหารวันละกี่มากน้อยแต่ไหนอย่าง ไร และพยายามจัดสรรให้ลงตัวกับความต้องการดังกล่าว ประกอบกับใช้เทคนิคทางจิตวิทยาหลอกล่อตัวเองไม่ให้อยากอาหารอีก สักหน่อย แล้วอย่างนี้หุ่นผอมเพรียวจะไปไหน

1.ใช้จานชามสีเข้ม เนื่องจากภาชนะที่สีสดใสจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารมากข ึ้น ดังนั้นเพื่อสกัดความอยากเสียตั้งแต่ยังไม่เริ่มลงมือกิน จึงควรจัดอาหารใส่ในภาชนะสีเข้ม

2. รับประทานผักมาก ๆ แบ่งxxxส่วนการรับประทานอาหารในแต่ละวันของคุณออกเป็น 4 มื้อ และสามในสี่มื้อนั้นควรเป็นอาหารประเภทผักล้วน ๆ

3. ดื่มน้ำเย็น ๆ เพราะน้ำเย็น ๆ จะช่วยให้ร่างกายต้องดึงพลังงานความร้อนในตัวออกมาเพื่อปรับอุณ หภูมิของน้ำให้เหมาะกับร่างกาย ด้วยเหตุนี้การที่เราได้ดื่มน้ำเย็น ๆ ร่างกายจึงต้องเผาผลาญแคลอรีมากขึ้น

4. กินแต่อาหารที่ไม่ติดมัน อาหารประเภทเนื้อสัตว์ติดมัน หมูสามชั้นทอดกรอบ กุนเชียง กากหมู หรืออาหารที่ทอดด้วยน้ำมัน ควรจะงดเว้นให้เด็ดขาด หากยังไม่อยากสูญเสียทรวดทรงองค์เอวอันสวยงามสมส่วน

5. เลือกกินของหวานอย่างเหมาะสม ขนมหวาน ๆ เช่น เค้ก หรือช็อกโกแลตเป็นของหวานที่อุดมไปด้วยนม เนย ไข่ และน้ำตาล ฉะนั้นหากต้องการลดน้ำหนักก็จงตัดอกตัดใจเสียเถอะ ทางที่ดี ควรหันมารับประทานลูกพลับ หรืออินทผลัมอบแห้งจะสามารถช่วยป้องกันอาการอยากจากของหวานเหล่ านั้นได้

6. งดใส่ครีมในกาแฟ แม้ครีมเทียมจะทำให้รสชาติของกาแฟกลมกล่อมขึ้น แต่คิดดูสิ ครีมเทียมเพียง 1 กรัม สามารถให้พลังงานสูงถึง 9 แคลอรี แล้วกาแฟที่คุณดื่ม ใส่ครีมกี่ช้อนต่อแก้ว????
7. สลัดน้ำข้น คุณบอกว่ารับประทานแต่สลัด แล้วทำไม ทำไมยังอ้วนอีก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะน้ำสลัดที่คุณเลือกรับประทาน ล้วนเป็นน้ำสลัดข้น ๆ ที่อุดมไปด้วยครีมนม และไขมันนม

8. ซดน้ำแกงจืดก่อนอาหาร เป็นความคิดที่ดีที่จะจัดการกับน้ำแกงจืด หรือไม่ก็ดื่มน้ำสักแก้วสองแก้วก่อนรับประทานอาหาร เพื่อให้คุณรู้สึกอิ่มกับอาหารตรงหน้า

9. เลือกกินข้าวกล้องแทนข้าวขาว ข้าวเป็นอาหารหลักที่เราต้องรับประทานเกือบทุกมื้ออยู่แล้ และถ้าหากได้รับประทานข้าวกล้องแทนข้าวขาว เราก็จะไม่ได้เพียงแค่คาร์โบไฮเดรตเฉย ๆ แต่จะได้ทั้งวิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆ มากมายจากเยื่อหุ้มข้าวและจมูกข้าว
10. เลิกนิสัยกินจุบกินจิบ อย่าสร้างความเคยชินให้กับตัวเองด้วยการกินนั่นกินนี่ไม่เป็นเว ล่ำเวลาอยู่เรื่อยไป แต่ควรกินอาหารเป็นมื้อเป็นคราวเท่านั้น่โดยเฉพาะเวลาอยู่หน้าจ อทีวีไม่ควรจะหาขนมกรุบกรอบ เช่น มันฝรั่งทอด ข้าวเกรียบ เพราะจะทำให้กินเพลินจนลืมเรื่องอ้วน

11. หาเพื่อนร่วมลด การลดน้ำหนักคนเดียว บางครั้งอาจทำให้รู้สึกท้อแท้ แต่ถ้ามีเพื่อนหัวอกเดียวกันที่มุ่งมั่นจะรีดไขมันส่วนเกินออกจ ากชีวิตเหมือนกัน จะช่วยทำให้มีกำลังใจขึ้นเยอะ

12. ดินเนอร์ใต้แสงเทียน ภายใต้แสงเทียนนอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูโรแมนติกขึ้นแล้ว ท่ามกลางแสงสลัว ๆ แบบนั้นยังทำให้ความอยากอาหารลดน้อยลงด้วย

13. อาหารมื้อเช้า อาหารมื้อไหน ๆ ก็ไม่สำคัญเท่ากับมื้อเช้า ทั้งนี้เพราะช่วงเวลาตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 10 โมงเช้า เป็นช่วงที่ระบบการเผาผลาญสารอาหารภายในร่างกายทำงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นจึงควรกินอาหารมื้อเช้าให้เต็มที่ ส่วนมื้อเย็นให้กินแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

14. ไม่กักตุนอาหารเต็มตู้เย็น ทั้งนี้เพราะจะทำให้คุณหาของกินง่ายและสะดวกสบายเกินไป ยิ่งมีของกินในตู้เย็นมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งกินตามใจปากมากขึ้นเท่านั้น
15. ผลไม้รสเปรี้ยวอมหวาน ผลไม้อย่างแอปเปิ้ล ส้ม ฝรั่ง กีวี สตรอว์เบอร์รี่ สับปะรด มะม่วง หรือมะเขือเทศ นับเป็นผลไม้ที่เกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รักษาห ุ่นอย่างแท้จริง เพราะนอกจากเป็นแหล่งของวิตามินซีคุณภาพสูง ยังแทบไม่มีแคลอรี่ในผลไม้ดังกล่าวอีกด้วย

16. ดื่มตบท้ายด้วยชามะนาว หลังอาหารแต่ละมื้อควรดื่มชามะนาวตบท้าย จะสามารถช่วยชะล้างปากจากอาหารคาว หรืออาหารมัน ๆ เลี่ยน ๆ ได้ดีกว่าการดื้มน้ำเปล่าธรรมดาและยังสามารถช่วยยุติความอยากอา หารเรื่อยเปื่อยของคุณอย่างได้ผลอีกด้วย

17. ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่ต้องการควบค ุมน้ำหนัก เพราะการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญแคลอรี่ให้กลาย เป็นพลังงานได้ ซึ่งนอกเหนือจากการเล่นกีฬาแล้ว ก็ควรหมั่นฝึกตนให้เป็นคนชอบเดินชอบทำงานบ้าน และชอบขึ้นลงบันได

18. กิจวัตรแรกสุดของทุก ๆ วัน หลังจากตื่นนอนตอนเช้า กิจวัตรแรกสุดที่ควรทำทันทีก็ไม่ใช่อะไรอื่น นั่นก็คือ ดื่มน้ำให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถดื่มได้ ทั้งนี้ก็เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่นขึ้น และช่วยให้ระบบขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายทั้งหนักเบาทำงานได้ อย่างคล่องตัว
19. ชั่งน้ำหนักอาทิตย์ละครั้ง เมื่อปฏิบัตอได้ตามคำแนะนำดังกล่าวข้างต้นแล้ว ควรติดตามผลการลดหุ่น ด้วยการเปลือยกายสำรวจตัวเองหน้ากระจกในห้องน้ำส่วนตัว และชั่งน้ำหนักอาทิตย์ละครั้งก็พอ ไม่จำเป็นต้องชั่งทุก ๆ วัน เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้รู้สึกเครียดและคับข้องใจที่น้ำ หนักไม่มีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นผลทันตา

20. อย่าลืมให้รางวัลกับตัวเอง หลังจากที่สามารถขจัดไขมันส่วนเกินในร่างกายให้ลดลงไปได้สำเร็จ (แม้จะลงไปเพียงเล็กน้อยก็ตาม) คุณก็สามารถจะให้รางวัลกับตัวเองด้วยการไป นวดหน้า นวดตัว ขัดผิว และบำรุงผิว เพียงเท่านี้หน้าตาและผิวพรรณของคุณก็จะแลดูสดใสและปิ๊งปั๊งขึ้นมาทันตาเห็น



วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

วิธีลดต้นขาสำหรับคุณผู้หญิง

         ปัญหาต้นขาใหญ่ นับเป็นปัญหาที่คอยสร้างความกังวลใจแก่คุณผู้หญิงอย่างมาก ถึงแม้ปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่ช่วยทำให้ต้นขาเรียวเล็ก แต่ก็ไม่ได้ผลถาวรเสมอไปทางที่ดีควรออกกำลังกายหมั่นสร้างเสริมลักษณะนิสัยให้ตัวเองจะดีกว่า การเสียเงินแพงๆ ซึ่งขาเรียวงามอาจอยู่กัลคุณไม่ได้่นาน และสำหรับคุณผู้หญิงคนไหนที่ไม่มีงบในการใช้เทคโนโลนีทางการแพทย์เข้าช่วยแล้วละก็ ลองดูวิธีลดต้นขาที่วีซ่า นำมาฝากกันดูค่ะ






การบริหารร่างกาย โดยมีท่าบริหารให้เลือกทำกัน 3 ท่า ดังนี้

1.ท่านอนด้วยออกกำลังกายไปด้วย
สามารบริการได้โดยหาผ้าปู หรือเบาะรองนั่งมารองก้นเพื่อกันการกระแทกและเพื่อรับน้ำหนักและป้องกันการเจ็บก้น จากนั้นนอนหงายราบไปกับพื้น จากนั้นยกขาขึ้นทั้งสองข้างขึ้นเหยียดตรง ค้างเอาไว้ แยกขาออกจากกันไปทางด้านข้างแล้วหุบขา ทำซ้ำไปมา 20 ครั้ง และปิดท้ายด้วยการปั่นจักรยานกลางอากาศ อย่างน้อย 80 ครั้ง

2.ท่านั่งแต่ก็หมั่นขยับขา
นั่งโดยเหยียดขาให้ตรง จากนั้นยกขาขึ้นจากพื้นเล็กน้อย โดยสลับขาซ้าย- ขวา อย่างน้อย 100 ครั้ง

3.ท่ายืนบริหารต้นขา
โดยให้ยืนหันข้างให้กับกำแพง วางมือบนกำแพง เหยียดขาข้างที่ไม่ได้ชิดกำแพง ยกขึ้นมา 90 องศา ด้านหน้าพยายามให้ขนานกับพื้น ทำอย่างน้อย 10 ครั้ง ต่อด้วยการยกขาขึ้นทางด้านข้างและด้านหลัง อย่างละ 10 ครั้งเหมือนกัน จากนั้นเปลี่ยนเป็นขาอีกข้างหนึ่ง ทำซ้ำ ๆ เหมือนกัน
หมั้นบริหารต้นขาด้วยการออกกำลังกายตามท่าบริหารที่เรานำมาฝากกัน โดยหมั่นทำประจำทุกวัน เพียงเท่านี้ คุณผู้หญิงก็สามารถลดต้นขาได้อย่างเห็นผล และไม่ต้องกังวลกับปัญหาต้นขาใหญ่อีกต่อไปค่ะ

วิธีลดก้น สวย เฟิร์ม กระชับ




1. ให้ตั้งลำตัวตรงด้วยเข่าทั้งสองข้าง วางแขนสองข้างปล่อยสบายอยู่ข้างลำตัว ปลายนิ้วแตะไว้ที่ต้นขา
2. หายใจเข้าให้ลึกค่อย ๆ เอนตัวไปด้านหลัง ให้รักษาตำแหน่งของหลังลำตัวและต้นขาทั้งสองข้างให้เหยียดเป็นแนวเส้นตรง พยายามเกร็งกล้ามเนื้อตั้งแต่ช่วงต้นขาไปจนถึงกล้ามเนื้อก้นให้ตึงเท่าที่จะทำได้ ยิ่งสามารถทำให้ตึงมากเท่าไหร่ก็จะทำให้เอนลำตัวไปด้านหลังได้มากยิ่งขึ้นตามที่ต้องการ
3. หยุดค้างไว้ 5-10 วินาที แล้วปล่อยลมหายใจออกและเอนตัวขึ้นมาเพื่อยิ่งขึ้นกลับไปสู่ท่าเริ่มต้น เริ่มจากวันละ 5 ครั้งในสัปดาห์แรก แล้วเพิ่มเป็นวันละ 10 ครั้งในสัปดาห์ที่ 2 และ 3 หลังจากนั้นค่อยเพิ่มเป็นวันละ 15 ครั้ง ในสัปดาห์ที่ 4 และ 5 ก็จะสามารถสังเกตเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของบั้นท้ายที่จะกระชับขึ้น

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

5 วิธีกระชับทรวงอก




สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาทรวงอกไม่กระชับ ต่อไปนี้ไม่ต้องกังวลอีกแล้วค่ะ เพราะวันนี้ เราเอาวิธีกระชับทรวงอกมาฝาก เป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ๆ แต่ต้องขยันทำกันหน่อยนะคะ จะได้เห็นผล
ท่าที่ 1ยื่นเท้าขวาไปข้างหน้าหนึ่งก้าวและงอเล็กน้อย เท้าซ้ายเหยียบผ้าฟิตเนสโดยใช้ปลายเท้าเหยียบเอาไว้ ใช้สองมือยึดปลายผ้าทั้งสองข้างไว้ด้านหลัง กางแขนและก้มตัวลง โดยไม่เคลื่อนไหวต้นแขน (ก้มลงและยืดตัวขึ้น) ทำซ้ำ 15 ครั้ง
ท่าที่ 2นั่งขัดสมาธิลำตัวตั้งตรง งอแขนโดยใช้ฝ่ามือประกบกัน และตั้งอยู่ในระดับหน้าอก จากนั้นเกร็งแขนและหน้าอก ดันฝ่ามือเข้าหากันประมาณ 2-3 วินาที แล้วคลายออก ทำซ้ำ 16 ครั้ง
ท่าที่ 3นั่งขัดสมาธิ มือจับผ้าฟิตเนสสองข้างโดยให้ผ้าพาดอยู่ด้านหลังอ้อมใต้รักแร้ งอแขนและเกร็งแขนดึงผ้าเข้าหากันมาที่หน้าอก ทำซ้ำ 15 ครั้ง
ท่าที่ 4คุกเข่าและก้มตัวไปกับพื้น พาดผ้าฟิตเนสไว้ด้านหลัง ใช้สองมือจับผ้าไว้ทั้งสองด้าน และใช้สองแขนพยุงไหล่ไว้ กางแขนและก้มตัวลง ทำ 10-15 ครั้ง
ท่าที่ 5ยืนกางขาและงอขาเล็กน้อย ใช้สองเท้าเหยียบกลางผ้าฟิตเนสไว้ ใช้สองแขนจับปลายผ้า ปล่อยแขนไว้ที่สะโพก โดยให้ข้อศอกชี้ไปด้านหลัง แขนขวาดึงปลายผ้าไปข้างหลัง แขนซ้ายงอทำเป็นเส้นทแยงมุม ดึงขึ้นไปด้านบน สลับข้างและทำข้างละ 15 ครั้ง
ลองเอาไปทำกันดูนะคะสาว ๆ ทรวงอกเป็นสิ่งสำคัญ ต้องดูแลกันหน่อยนะคะ อย่าปล่อยให้อะไรมันสายเกินแก้น๊า